กลยุทธ์การขายออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ
“ ห้ามพลาดกับ 5 สิ่งนี้ ”
1. สร้างภาพลักษณ์แบรนด์
กลยุทธ์ที่สำคัญในการดำรงธุรกิจทุกอย่าง คือ ความน่าจดจำของแบรนด์ โดยควรเริ่มต้นตั้งแต่ชื่อแบรนด์ และสโลแกนของแบรนด์
เทคนิคในการตั้งชื่อแบรนด์และสโลแกน
การเล่นคำกับสินค้า – เทคนิคในการเล่นคำจะช่วยบอกได้ถึงสินค้าของแบรนด์ เช่น สินค้าประเภทชาชงต่าง ๆ สามารถเลือกใช้ชื่อแบรนด์ที่มีคำว่าชา เพื่อเล่นกับตัวสินค้า ยกตัวอย่าง แบรนด์ชิน “ชา”
การเลือกใช้คำง่ายและคล้องจอง – หากไม่มีคำที่สามารถเล่นกับสินค้าได้ หรือไม่ชอบเทคนิคการตั้งชื่อแบบเล่นกับสินค้า ก็สามารถเลือกคำง่าย ๆ ติดหู เช่น พริกทอดรสเด็ด เผ็ดถึงทรวง
การหยิบวลีเด็ดมาใช้ – การเข้าถึงโซเชียลมีเดีย ทำให้มีวลีเด็ดใหม่ ๆ เกิดขึ้นแทบจะทุกวัน สามารถหยิบยกบางคำมาทำเป็นสโลแกน เพื่อโฆษณาสินค้าได้ เช่น ส้มหยุดแต่ความอร่อยไม่หยุด กับน้ำส้มแท้แม่คั้นเอง
การเลือกใช้ชื่อแบรนด์ หรือใช้สโลแกนแบรนด์อย่างใดอย่างหนึ่งให้มีความน่าสนใจจะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้
2. การคำนวณราคาต้นทุนและกำไร
การขายของออนไลน์มีค่าใช้จ่ายในเรื่องของการขนส่งที่ต้องคำนวณให้ถี่ถ้วน นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของการสต๊อกสินค้าเตรียมจำหน่าย และค่าความเสียหายที่อาจเกิดขณะขนส่ง ผู้ขายของออนไลน์จึงควรมีเงินสำรองเตรียมเอาไว้ อาจพิจารณาทำบัตรเครดิต สำหรับใช้การรูดซื้อสินค้าเพื่อนำมาขาย หรือบัตรกดเงินสด เมื่อต้องการใช้เงินก้อน
3. ช่องทางการชำระเงินและการขนส่ง
กลยุทธ์การตลาดสมัยใหม่นอกจากจะต้องซื้อง่ายผ่านทางออนไลน์แล้ว ช่องทางการชำระเงินและการขนส่งจะต้องครอบคลุม สินค้าที่มีมูลค่าสูงควรมีการเปิดให้ผ่อนชำระรายเดือนได้ โดยการรับชำระผ่านบัตรเครดิตของธนาคารต่าง ๆ เช่น เปิดให้ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต และควรมีบริการขนส่งรองรับหลายบริษัท ทั้งขนส่งเอกชนและไปรษณีย์ไทย เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า
4. การรีวิวและแฮชแท็ก
การเปิดขายสินค้าแบบออนไลน์ ฟีดแบ็กหลังจากได้รับสินค้ามีความสำคัญมาก โดยลูกค้าจะมีการรีวิวลงโซเชียล ผู้ขายอาจจะมีการคิดแฮชแท็กของร้านหรือของสินค้า เพื่อให้ง่ายต่อการรีวิวและค้นหา รวมถึงมีแฮชแท็กสำหรับการบอกต่อโปรโมชั่นด้วย การขายของออนไลน์มีความจำเป็นมากที่จะต้องดึงดูดลูกค้าจากช่องทางออนไลน์ จึงไม่ควรละเลยการรีวิวและแฮชแท็กโดยเด็ดขาด
5. ช่องทางกระจายข้อมูลที่น่าสนใจ
แม้แแฮชแท็กเป็นตัวกระตุ้นให้คนรู้จักสินค้าของเรา แต่ก็ควรมีช่องทางหลักในการประชาสัมพันธ์สินค้าเช่นกัน และควรมีความน่าสนใจ เช่น การใช้อินโฟกราฟิกในการบอกต่อสินค้า ซึ่งง่ายต่อการทำความเข้าใจ และเป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมหน้าสินค้า จนนำไปสู่การซื้อได้ในที่สุด